ผมยังจำได้ไม่เคยลืมเมื่อสมัยที่เรียนอยู่ประถม  Ragnarok คือเกมออนไลน์เกมแรกที่ผมได้เล่น ซึ่งกว่าจะเข้าไปเล่นได้ต้องผ่านขั้นตอนที่ยุ่งยากมากทั้งต้องสมัคร E-mail ต้องไปยื่นยันตรงโน่นตรงนี้ แต่ก็เพราะขั้นตอนในการสมัครนี้ ผมเชื่อได้เลยว่าที่พวกคุณจำรหัสบัตรประชาชนได้ก็เพราะการสมัครไอดีเกมต่างๆ แต่ผมก็สามารถผ่านขั้นตอนเหล่านั้นมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านเกม แต่ปัญหาใหญ่หลังจากสมัครได้คือต้องเติมเวลาในเกมก่อนถึงจะเข้าไปเล่นได้ซึ่งบัตรเติมเงินขั้นต่ำตอนนั้นคือ 89 บาท สามารถเล่นได้ 20 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นเงินที่ค่อนข้างเยอะสำหรับเด็กประถมแถมยังต้องเสียเงินค่าไปเล่นที่ร้านอีก ทำให้ผมต้องเก็บเงินซึ่งก็ทำให้ผมรู้จักการจัดสรรใช้เงินต่อมาในจนถึงปัจจุบัน

“สะสมกันมาโชว์เพื่อนๆได้เลยยิ่งใครมีบัตรราคาสูงๆนี้อวดได้ยันเรียนจบ”

Ragnarok เป็นเกม MMORPG หรือ Massively Multiplayer Online Role Playing Game เกมแนว RPG ซึ่งเปิดให้ผู้เล่นปริมาณมากได้มาเล่นพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะพาผู้เล่นไปสู่โลกแห่งการผจญภัย ต่อสู้กับเหล่ามอนเตอร์มากมาย หลากหลายชนิด หลากหลายธาตุ ซึ่งในโลกของ Ragnarok ระบบเก็บเลเวลจะแบ่งออกมาเป็น 2 อย่าง 1.คือช่องเลเวลที่เมื่อเลเวลอัพก็จะสมารถอัพสเตตัส(status)ตามสายที่ต้องการเล่น 2.คือช่อง     จ็อป(Job)เมื่อจ็อปอัพก็จะสามารถอัพสกิลต่างๆได้และเมื่อจ็อปถึงกำหนดก็สามารถใช้ในการเปลี่ยนอาชีพได้ ซึ่งทุกคนจะเริ่มจากการเป็น Novie(โนวิด) และเปลี่ยนอาชีพไปอีกขั้นหรือ Class 1 ซึ่งได้แก่ 1.Swordsman (ซอสแมน แต่สมัยนั้นคนส่วนใหญ่อ่านว่าสวอดแมนหรือนักดาบ)  2. Magician (เมจิกเชี่ยนหรือนักเวทย์) 3. Archer(อาเชอร์หรือนักธนู) 4. Merchant (เมอฉานหรือพ่อค้า) 5. Thief (ตีปหรือโจร) 6. Acolyte (อาโคหรือนักบุญ) ซึ่งในแต่ละอาชีพก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซึ่งในแต่ละอาชีพก็ยังสามารถเล่นแยกออกไปได้อีกหลายสายตามที่ผู้เล่นอัพสเตตัล เช่น อาโคสายบู๊ พ่อค้าสายทำของ เป็นต้น ซึ่งแต่สายที่ผู้เล่นเลือกก็จะมีแนวทางการเก็บเลเวลที่ต่างกันออกไปและผลจากสายที่เล่นมานั้นก็จะส่งผลเมื่อเปลี่ยนอาชีพสู่ Class 2 ซึ่งจะแบ่งออกได้อีก 2 อาชีพของอาชีพที่เราเลือกใน Class 1 ซึ่งเป็นเสน่ห์ของ Ragnarok ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้หลากหลายสายมากมาย

“เลือกเล่นกันได้หลากหลายสายไม่จำเจ”

นอกจากความหลากด้านตัวละครแล้วก็ยังมีเรื่องของอุปกรณ์ในการสวมใส่หลากหลายชนิดมากมายที่จะใช้ในการตอบโจทย์ของสายที่ผู้เล่นต้องการด้วยระบบการใส่การ์ดของมอนเตอร์ในอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ เช่น อาวุธ เครื่องป้องกัน เป็นต้น ซึ่งการ์ดของมอนเตอร์แต่ละตัวก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปซึ่งถ้าร่วมกันได้ครบเซ็ตที่เราจัดให้เข้ากับสายแล้วละก็จะเป็นอะไรที่ฟินมาก แต่การจะรวมให้ครบก็ต้องคงใช้เวลาและเงินทุนกันหน่อย

“ได้การ์ดบอสแล้วงานนี้มีร่ำรวยแน่นอน”

ในโลกแห่งการผจญภัยของ Ragnarok พวกคุณจะได้พบกับผู้เล่นมากหน้าหลายตาได้เกือบทุกๆที่ที่พวกคุณไป ซึ่งตรงจุดนี้ก็ทำให้พวกคุณสามารถเข้าร่วมปาร์ตี้(Party)และร่วมเก็บเลเวลไปพร้อมกันได้สูงสุดถึง 12 คน และเลเวลต้องไม่ห่างกันเกิน 15 เวล ต้องขอบอกเลยว่าการเก็บเลเวลคนเดียวจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบาก หากพวกคุณไม่มีเงินทุนสนับสนุนเรื่องของอุปกรณ์และยารักษามาแต่แรกแล้วละก็นะ เพราะฉะนั้นแล้วระบบปาร์ตี้จึงช่วยให้ผู้เล่นสามารถเก็บเลเวลได้ดียิ่งขึ้น ดั่งสุภาษิตที่ว่า “คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนแสนสบาย”

“เตรียมความพร้อมก่อนยกทัพลุยบอส”

“สภาพหลังเจอบอส”

 

เมื่อพวกคุณได้พัฒนาตัวละครมาจนคิดว่าเทพแล้วก็สามารถไปทดสอบความสามารถได้ด้วยระบบ PVP หรือ Player versus Player คือระบบที่ทำให้ผู้เล่นสามารถมาสู้กันเองได้ในสถานที่ที่กำหนดหากใครคิดว่าแน่และสามารถอยู่รอดบนพื้นที่นั้นได้ก็คุณก็คือเทพตัวจริง

“ที่นี้ข้าครองแล้ว”

นอกจากระบบ PvP แล้วก็ยังมีระบบ กิลวอ(Guild War) ที่จะรวมเอาผู้เล่นสูงสุดถึง 35 คน มาร่วมกันเหมือนปาร์ตี้แก๊งใหญ่แล้วบุกตะลุยเข้าไปตีหินกิลเพื่อยึดครองบ้านกิลหลังนั้น และต้องรักษาหินกิลต่อเพื่อไม่ให้กิลอื่นมาตียึดบ้านไปได้อีกที กิลที่สามารถรักษาหินกิลไว้ได้ก็จะได้รับรางวัลมากมาย

“ปกป้องหินให้ได้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

นี้เป็นเพียงระบบส่วนหนึ่งของเกม Ragnarok เท่านั้นยังมีระบบอีกมากมายที่จะทำให้พวกคุณได้สนุกไปกับเกมนี้  ซึ่งระบบต่างๆภายในเกมนี้ก็กลายเป็นมาตรฐานให้กับระบบในเกมอื่นๆที่สร้างออกมา เพราะฉะนั้นสำหรับผมแล้ว Ragnarok จึงเป็นก้าวแรกที่ทำให้ผมเข้ามาสู่เกมออนไลน์ ได้เข้าใจระบบและวิธีการเล่นซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่เกมนี้ได้ทำให้ผมหันมาสนใจเกมออนไลน์และเริ่มเล่นเกมออนไลน์ต่างๆที่ออกมาจนถึงปัจจุบัน